วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

ღ เดินด้วยใจ ღ


เดินด้วยใจ
โดย..พระไพศาล วิสาโล




เวลาเดินไปไหนมาไหนคนส่วนใหญ่มักคิดแต่เพียงเดินให้ถึงจุดหมาย แต่การเดินมีประโยชน์มากกว่านั้น หลายคนรู้ดีว่าการเดินช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่น้อยคนที่จะตระหนักว่าการเดินนั้นมีผลดีต่อจิตใจด้วย ไม่ใช่แค่ฝึกความอดทนเท่านั้น หากยังช่วยให้ใจสงบ ผ่อนคลาย และตื่นรู้อยู่เสมอ การเดินโดยมุ่งเพียงแค่ไปไห้ถึง ทำให้เราเป็นทุกข์ได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อจุดหมายปลายทางยังอยู่อีกไกล ยิ่งคิดว่าเมื่อไรจะถึงๆ ก็ยิ่งเครียดและหงุดหงิด ทั้งๆ ที่กายยังไหว แต่ใจกลับเพลียเสียแล้ว อันที่จริงเราไม่จำเป็นต้องทุกข์ขนาดนั้นเลยก็ได้ หากวางใจให้เป็น เช่นน้อมจิตมาอยู่กับทุกย่างก้าว ให้มีความรู้สึกตัวกับการเดินแต่ละก้าว บางครั้งใจเผลอไปที่อื่น ระลึกได้เมื่อไร ก็พาใจกลับมาอยู่กับการเดิน ให้กายกับใจร่วมเดินไปด้วยกัน อย่าปล่อยให้กายอยู่ตรงนี้ แต่ใจไปรออยู่ข้างหน้าแล้ว ใจที่เฝ้าแต่จะถึงจุดหมายไวๆ มีแต่จะนำความทุกข์มาให้โดยไม่จำเป็น


เมื่อใจอยู่กับกายทุกย่างก้าวอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ตัวจะยังไม่ถึงจุดหมาย แต่ใจกลับ “ถึง”ทุกขณะ นั่นคือเข้าถึงความสงบเย็นและผ่อนคลาย เพราะเมื่อจิตไม่วอกแวก หรือชะเง้อมองจุดหมาย ก็ย่อมไม่ถูกเผาลนด้วยความอยากจะไปให้ถึงไวๆ ขณะเดียวกันการหมั่นรู้ทันความนึกคิดปรุงแต่ง (รวมทั้งความอยากจะถึงที่หมายไวๆ) ก็ช่วยฝึกสติหรือความระลึกได้ให้ทำงานได้รวดเร็วฉับไว ทำให้จิตมีความรู้สึกตัวอย่างต่อเนื่อง


ทุกวันนี้เราเดินด้วยความรู้สึกตัวทั่วพร้อมน้อยมาก เพราะใจลอยเกือบตลอดเวลา หากไม่พะวงถึงจุดหมายปลายทาง ก็มักนึกถึงเรื่องต่างๆ มากมาย รวมทั้งวางแผนร้อยแปด บางครั้งอากัปกิริยาจึงไม่ต่างจากคนเดินละเมอ ความรู้สึกตัวทั่วพร้อมเกิดขึ้นได้เมื่อเรามีสติอยู่กับการเดิน คือใจรับรู้ความเคลื่อนไหวทุกย่างก้าว เมื่อใดที่จิตเผลอออกไปนอกตัว พลัดไปอยู่กับเรื่องราวในอดีตหรืออนาคต รู้ตัวเมื่อไรก็พาจิตกลับมาอยู่กับปัจจุบันคือการเดิน โดยไม่จำเป็นต้องเพ่งที่เท้า หรือบังคับจิตให้อยู่กับเท้า ทำเช่นนี้บ่อยๆ ความรู้สึกตัวจะเพิ่มขึ้น สติจะปราดเปรียวขึ้น ทำให้เราไม่เผลอง่าย จะคิดหรือทำอะไร ก็ทำด้วยใจที่เต็มร้อยและมีสมาธิมั่นคง


ไม่ว่าจะเดินไปปากซอย ขึ้นบันไดหรือไปทำงาน เป็นโอกาสดีสำหรับการบ่มเพาะสติ สร้างความรู้สึกตัว อันเป็นประตูสู่สมาธิและความสุข ซึ่งเราสามารถเข้าถึงได้แม้ในชีวิตประจำวัน




ที่มา : http://www.visalo.org
เครดิตภาพ : Google










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น