ถ้าเราอยากจะลืมอดีตที่ขมขื่นนะคะ เราก็จะทุกข์เพราะอดีตอีกแหละค่ะ อย่าทุกข์เพราะคิดที่จะลืมเลย แต่จงทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผ่านมาในอดีต ให้รู้เท่าทันตามความเป็นจริงของมัน จะทำให้เราเข้าใจว่าสิ่งที่ผ่านมานั้น เป็นครูที่ดีของเราได้ มันเป็นเพื่อนกับเราได้ โดยที่เราจะเป็นอิสระจากมัน ไม่ต้องคิดลืมค่ะ แต่จงตั้งหลักกับปัจจุบันว่าเรากำลังดำเนินชีวิตของเราอย่างไร เราสามารถที่จะมีห้องแห่งลมหายใจของเราที่จะทำให้เรารู้ว่า ขณะนี้เรามีตัวเองที่สามารถที่จะพัฒนาศักยภาพในใจของเราให้แข็งแรงในปัจจุบัน ถ้าอย่างนี้อดีตไม่มีอิทธิพลเหนือเราเลยค่ะ มันยังมีอยู่แต่ว่ามันไม่มีอิทธิพลต่อเราในปัจจุบัน เพราะเราเข้าใจมัน สิ่งนี้เราเรียกว่าปัญญาแล้วนะค่ะ การที่เราฝึกให้มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันขณะ อย่างคนที่ทันสมัยอย่างแม้จริง รู้ว่าขณะนี้ทำอะไร จิตของเราอยู่กับการทำอย่างคนที่ร่าเริง เบิกบานแจ่มใส มีปัจจุบันขณะ ที่ไม่ทุกข์ อดีตไม่มีอิทธิพลเลยในขณะที่เราไม่ทุกข์ ในปัจจุบันจริงไหมคะ ไม่ต้องคิดลืมให้มันทุกข์หรอกคะ อยู่กับปัจจุบันขณะอย่างคนที่ทันสมัยอย่างแท้จริง คือ เบิกบานแจ่มใส เราก็เป็นอิสระจากอดีตแล้ว เราก็ไม่หวาดระแวงกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงในอนาคตด้วยนะคะ ปัจจุบันเป็นทั้งอดีตและอนาคตที่เราสามารถมีความสุขได้ อย่างคนที่ช่วยตัวเองได้ ภายในห้องแห่งลมหายใจคือลมหายใจแห่งสติปัญญานั่นแหละค่ะ ขอให้ท่านมีความสุขกับปัจจุบันขณะนะคะ
ที่มา : www.sathira-dhammasathan.org/
อดีตที่ยังจดจำได้ แปลว่าสัญญาความจำได้หมายรู้ทำงานดี มันดีแค่ไหนที่ยังจดจำอะไรต่อมิอะไรได้อยู่ แม้เรื่องนั้นจะขื่นขมบ้าง แต่มันก็ได้จบลง ให้จำได้ว่า มันจบแล้ว..กลับมารักษาปัจจุบัน และทำมันให้ดีที่สุดนั้น ถูกทางและถูกต้องโดยธรรม...
ตอบลบ_/\_ สาธุธรรมคำสอนแม่ชีศันสนีย์ แห่ง เสถียรธรรมสถาน ค่ะ