รู้เอง เห็นเองด้วยปัญญา
ทุกขเวทนา..ไม่ใช่ตัวตน…เป็นทุกขลักษณะ…เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย…เพราะสิ่งนี้มี จึงเกิดสิ่งนี้…เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ก็ดับ…
จิต..ไม่ใช่ตัวตน แต่จิตอาศัยธาตุ๔ และขันธุ์๕ อยู่ ชั่วคราว
จิต…ไม่ใช่ขันธุ์๕ ….ขันธุ์๕ ไม่ใช่จิต…ขันธุ์๕ ไม่ใช่ตัวตน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิต เป็นกระบวนการของขันธุ์๕….ไม่ใช่ของจิต
เพ่งดูให้ชัด…พิจารณาให้เห็น และยอมรับที่มันเป็นเช่นนั้น…เพราะความแปรปรวน ความไม่เที่ยงของขันธุ์๕ จึงทุกข์…
ขันธุ์๕ เป็นทุกข์ ขันธุ์๕ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา…เป็นสภาวะที่อาศัยกันเกิดขึ้น…
ใช้ปัญญาทบทวนเช่นนี้อยู่บ่อยๆ…พิจารณาอยู่เสมอ..แยกทุกข์ออกจากจิต…แยกจิตออกจากนามปรุงแต่ง…
เมื่อเกิดทุกข์เวทนา …เพราะเมื่อรู้ว่าขันธุ์คเป็นตัวทุกข์ จิตก็หลงคิดว่าขันธุ์๕เป็นของตน….ใช้ปัญญาสอนจิตเนืองๆ
การปฏิบัติภาวนาที่มีสมาธิเป็นพื้นฐาน พิจารณาเห็นตามความเป็นจริงได้ง่าย….
เมื่อจิตถูกกระทบกระเทือนหวั่นไหว…ก็รู้ว่ากายก็หวั่นไหวตาม คือการเต้นของชีพจรแรงขึ้น ถี่ขึ้น…ตามสภาวะที่มากระทบนั้น …
จิตเชื่อมส่งถึงกาย…ทางกระแสประสาทอัตโนมัติ….เห็นกายทำงาน…ทำจิตให้นิ่งสงบไว้…กายก็จะสงบลงตามมา..
เปรียบเหมือนรถวิ่งมาด้วยความเร็ว…เมื่อมีเหตุให้ต้องแตะเบรค…แรงส่งของรถก็ยังคงมีอาจทำให้ล้อรถลื่นไหลไปข้างหน้า..จึงหยุดสนิท
เห็นเวทนาเกิด…เห็นจิต…เห็นกาย….เห็นธรรม….ยิ่งนานวันจะเห็นสภาวะที่ละเอียดขึ้น…
ที่มา : www.waewdao11.wordpress.com
เครดิตภาพ : Google
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น