วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ღ..เมตตาตนเอง..ღ


เมตตาตนเอง
โดย...หลวงปู่บุญจันทร์ จนฺทวโร

ความยินดีนี่แหละมันทำลายศีล
เดี๋ยวก็ยินดีในการรักษาศีล เดี๋ยวก็ไปยินดีในการทำเลว กลับไปกลับมา
อันนี้ความยินดีมันทำให้จิตใจ กลับกลอกไปมา จิตใจไม่แน่นอนมั่นคง
รักษาศีล ไม่ได้เจริญ ไม่เข้าถึงอธิศีล ก็เพราะตัณหาความยินดี
ฉะนั้น เรารักษาศีลมุ่งหวังจะเลิกละตัณหา
ความอยาก ความยินดีภายในดวงจิตดวงใจให้หมดไป สิ้นไป
เนี่ยการรักษาศีลเพื่อต้องการความหลุดพ้นจากอำนาจของตัณหา
ไม่ใช่รักษาศีลเพื่อตัณหา รักษาศีลแล้วอยาก อยากได้อานิสงส์มัน
ถ้าเรารักษาศีลแล้ว เมื่อตายแล้วขอให้เราได้ไปเกิดเป็นเทพบุตร เทพธิดา เป็นอินทร์ เป็นพรหม
อันนี้เรียกว่ารักษาศีลด้วยความอยาก ความปรารถนา
หรืออยากได้โภคทรัพย์สมบัติในพื้นภูมิมนุษย์
เมื่อไปเกิดในชาติใดภพใด ก็ขอให้เป็นผู้มั่งคั่ง บริบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์สมบัติ
อันนั้นท่านเรียกว่ารักษาศีลด้วยตัณหา ความอยาก ไม่เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์
ได้อยู่ อานิสงส์แห่งศีลนั้นได้อยู่ เมื่อเรายังท่องเที่ยวไปในวัฏสงสาร
แต่วัตถุที่เราได้มานั้น มันก็เป็นวัตถุที่ตั้งทุกข์นั่นแหละ
ความมั่ง ความมี ความร่ำ ความรวย เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี
เวลาตายลง สตางค์เดียวเอาไปไม่ได้ เราก็เห็นกันอยู่อย่างนั้นแหละ
สมบัติโลก เครื่องใช้ของโลกชั่วคราว
มุ่งหวังน่ะ รักษาศีลน่ะมุ่งหวังจะละเลิกตัณหา ความอยากในสิ่งใดๆ ทั้งหมด
ให้จิตใจมันหลุดพ้นจากอำนาจของตัณหา
เพื่อบรรลุพระนิพพานเป็นจุดหมายปลายทางที่พ้นจากทุกข์

นี่เมื่อเราพิจารณาศีล ชำระศีลของเราให้บริสุทธิ์ผ่องใสขึ้นดีแล้ว
ในระดับต่อไปนั้นก็ให้เจริญเมตตา ให้นึกขึ้นภายในใจของตน
เมตตา เมตตาจิต เมตตาใจ อย่าไปสร้างความอยาก
ความอยากมันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์
อยากในสิ่งใดๆ ก็เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ทั้งนั้น
ถ้าต้องการความสุขสงบเยือกเย็นสบาย
ก็ต้องเลิก ละตัณหา ความอยากออกจากใจ
อันนั้นท่านเรียกว่าเมตตาใจ ตนเมตตาตน

เราเมตตาเราไม่ได้ ใครจะเมตตา
พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ทำทั้งนั้นแหละ
ถ้าเราไม่ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วทีนี้ เราก็ไม่ได้เมตตาเป็นที่พึ่ง
เมตตาเพียงปาก เมตตาอยู่นอกใจ เมตตาคนนู้น คนนี้
แต่ใจตัวเองไม่เมตตา สร้างตัณหาความอยากให้เกิดขึ้น มันก็เดือดร้อนเป็นทุกข์
เพราะตัณหาเป็นฝ่ายสมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์ ไม่ใช่เหตุให้เกิดสุข
เมตตาแหละเป็นเหตุให้เกิดสุข ท่านว่าอย่างนั้น
เมตตาเจโตวิมุต จิตใจพ้นจากอำนาจของตัณหาด้วยเมตตาใจจริงๆ
ต้องการให้ใจมีความสุข สงบ เยือกเย็น สบาย
นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี
เมื่อใจมันสงบจากตัณหา เลิกละตัณหาออกจากจิตใจเสียได้
จิตใจก็มีความสุขสงบ อันนั้นเรียกว่าเมตตาใจจริงๆ
ใจเมตตาใจ ใจต้องทำเมตตาให้มีขึ้นในใจ ใจจะได้พึ่งเมตตา
อย่าไปคอยแต่เมตตาคนอื่น เมตตาใจตัวเองได้ไหม ต้องดูดีๆ
ดูให้มันถูกต้อง ให้มันเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง ในเหตุในผล

เมื่อเราทำเมตตาให้มีภายในดวงจิตดวงใจของตนแล้ว
ท่านก็ให้แผ่เมตตาจิตออกไปทั่วทุกทิศทุกทาง
ว่าขอสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงในโลก จงเป็นสุขเป็นสุขทุกถ้วนหน้าเถิด
ความสุขนี่แม้แต่สัตว์เดรัจฉานเขาก็ปรารถนา
ฉะนั้นท่านถึงว่าให้แผ่เมตตาจิต อย่าได้มีความเบียดเบียนซึ่งกันและกัน
อย่าได้ทำลายล้างผลาญกันและกัน จงอยู่เป็นสุขเป็นสุขเถิด....

ที่มา : http://dlitemag.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น