วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ ขันติ ღ

 
คำสอนข้อแรกที่หลวงพ่อชาสอน
คื อ. . . เ ร า ต้ อ ง อ ด ท น
การมีขันติ คือ การให้พรแก่ตัวเอง

-พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก-

http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

ღ การยึด ღ


ทุกข์ทั้งหลาย เกิดจากการยึดมั่น
ยึดเขา ยึดเรา ยึดคณะ ยึดพวก
เมื่อใด เกิดความยึดมั่นในสิ่งเหล่านี้
แม้เพียงสิ่งเดียว เมื่อนั้นย่อมเกิด…ความทุกข์…

-สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)-

Cr : http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

ღ จิตแจ่มใส ღ


วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ เกมชีวิต ღ


“เกมชีวิต” จะให้รุกอย่างเดียวคงไม่ได้
บางครั้งเราก็ต้องรู้จักการถอยออกมาตั้งสติบ้าง
เพื่อที่จะก้าวต่อไปยังข้างหน้า

Cr : http://www.jaowka.com/

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ ความสุขที่แท้จริง ღ

ความสุขที่แท้จริงนั้นได้แก
ปัญญาความรอบรู้ทั้งหมด
ในกองสังขารตามความเป็นจริงทุกสิ่ง
แล้วก็วางหมดไม่มีเหลือ
หมายความว่ารู้หมด วางหมดนั่นเอง
รู้แล้วก็ยึดเอาไว้ ไม่ได้ปล่อยได้วางไป
มีแต่เก็บกำเอาไว้ไม่วาง
นี้แหละคือทุกข์ตัวจริง มันเป็นอย่างนี้...

-หลวงปู่คูณ สิริจันโท-

ที่มา : http://owatdhamma.blogspot.com/2013/06/blog-post_3538.html
เครดิตภาพ : bloggang.com / noiwanwannoi

ღ ความรัก ღ

 

ความรักไม่เคยทำให้ใครทุกข์
การไม่รู้จักธรรมชาติของความรักต่างหากที่ทำให้เกิดทุกข์
ธรรมชาติของความรักคือเกิดขึ้นในเบื้องต้น
ดำรงอยู่ในท่ามกลาง และแตกดับไปในที่สุด...

-ท่าน ว.วชิรเมธี-

Cr : http://bhudsabakron.blogspot.com/2013/03/blog-post_23.html

ღผู้ภาวนาย่อมรู้จักทุกข์ ღ


เมื่อผู้ใดมาภาวนา ทวนกระแสจิตเข้ามาภายใน
มากำหนดรู้กายรู้จิตนี้อยู่ ก็ย่อมรู้จักทุกข์
เพราะร่างกายนี้มันแปรปรวนอยู่เรื่อยไป ไม่คงที่
แล้วจิตก็อาศัยอยู่ในร่างกายอันนี้
เมื่อร่างกายอันนี้มันแปรปรวนไป มันกระทบกระทั่งกับจิต
จิตก็มีความรู้สึกเปลี่ยนแปลง ไม่ปกติ วุ่นวาย
ถ้าจิตของท่านผู้รู้ทั้งหลายแล้ว ท่านไม่หวั่นไหว
เพราะท่านรู้ว่ากายนี้ไม่ใช่ตัวตนของเรา
เมื่อมันแปรปรวนไปก็เป็นเรื่องของมัน เราก็บังคับมันไม่ได้
หน้าที่ของจิตก็มีแต่กำหนดรู้เท่าตามความเป็นจริงอยู่เท่านั้นเอง
เราจะไปบังคับให้มันเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ได้เลย

-หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ-

ที่มา : http://owatdhamma.blogspot.com/2013/07/blog-post_1882.html
เครดิตภาพ : bloggang.com / noiwanwannoi

ღ การอภัย ღ


การอภัยคนเป็น
เป็นปกติของคนปล่อยวาง
การเอาเรื่องทุกอย่างมาคิด
เป็นปกติของคนยึดมั่นถือมั่

-ค่ายพุทธบุตรทำดี-

http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

ღ สติ ღ


จำคำว่า ‘สติ’ ไว้ว่า เป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด
ไม่มีอะไรจะเป็นเครื่องคุ้มกัน มากเท่ากับ สติ

-พุทธทาสภิกขุ-

Cr : http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

ღ อย่าเสียเวลากับความหลัง ღ


90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ
'ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น'
มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ
ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ
'อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน'
'อยู่กับปัจจุบันให้เป็น' ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี 'สติ' กำกับตลอดเวลา

-ท่าน ว.วชิรเมธี-

Cr : http://bhudsabakron.blogspot.com/2013/02/blog-post_13.html

ღหยุดซะ ღ


ถ้าไม่รู้จริงอย่าไปพูด มันบาป
ถึงรู้จริงก็ไม่ควรพูด หยุดซะ...

-หลวงปู่ชอบ ฐานสโม-
Cr : http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

ღ ความไม่ยั่งยืน ღ



ความไม่ยั่งยืน เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และแน่นอน ความยิ่งใหญ่ คือความไม่ยั่งยืน ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วยทาน ศีล เมตตา และ กตัญญู ชีวิตที่มีความดี อาจมิใช่ความยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยคุณธรรมความดีเท่านั้น

-หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ที่มา : https://www.facebook.com/Dhammawindow?ref=profile
เครดิตภาพ : https://www.facebook.com/nongnuch.sunthatkan

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ ธรรมแท้จริง ღ


เมื่อหยุดคิดจิตก็สงบ ในเมื่อจิตสงบมันก็หยุดคิดเอง
"นั่นแหละ คือ ธรรมที่แท้จริง"

-หลวงปู่ดูลย์ อตุโล-

ที่มา : http://www.wichai.net/dhamma/katidham0.htm
เครดิตภาพ : http://pantip.com/topic/30615929

ღ หัวใจแท้ของพระพุทธศาสนา ღ

 

จิตว่าง หมายถึง จิตที่ว่างจากกิเลสตัณหา ไม่เจือด้วย โลภะ โทสะ โมหะ เป็นจิตที่ไม่ยึดมั่นถือมั่น
จิตที่บริสุทธิ์ จิตที่มีสติ

จิตวุ่น เป็นคำตรงกันข้ามกับจิตว่าง การปรุงแต่งเป็นเหตุให้จิตวุ่น นั่นเอง และทำให้เป็นทุกข์

คนเราธรรมดามีจิตว่างอยู่เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ไม่ใช่จิตวุ่นเป็นพื้นฐาน
การทำงานด้วยจิตว่าง หมายถึง การทำงานด้วยความมีสติ จิตใจไม่วอกแวก เหม่อลอย ปราศจากกิเลสตัณหา มีความมุ่งมั่นในการทำงานให้ประสบผลสำเร็จ

การที่คนเราชอบนำไปปรุงแต่งนั้น ก็เพราะความหลงอยู่ในของที่เป็นคู่กัน เช่นเรื่อง ดีเรื่องชั่ว, เรื่องบุญเรื่องบาป, เรื่องสุขเรื่องทุกข์, ความมีความจน, ได้ลาภ เสื่อมลาภ, ความเป็นผู้แพ้ผู้ชนะ, การได้การเสีย, ความรักความเกลียด, ความพอใจความไม่พอใจ, ของไพเราะของไม่ไพเราะ, ของสวยของไม่สวย, ของหอมของเหม็น เป็นต้น

บรรดาของคู่กันข้างต้นนั้น อาจสรุปให้เหลือเพียงคู่เดียวก็ได้ ก็คือ คุณและโทษ ของทุกอย่าง มีทั้งคุณและโทษเสมอ คนโง่เท่านั้นที่จะไปเห็นมันแต่เพียง ด้านเดียว ว่าเป็นคุณอย่างเดียว หรือเป็นโทษอย่างเดียว ยกตัวอย่าง ถ้าไม่มีดี ความชั่วก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะมีความชั่วมา เทียบเคียง ความดีจึงเป็นของมีค่าขึ้นมา

ความสุขกับความทุกข์ก็เหมือนกัน เพราะมีทุกข์มาเทียบ ความสุขจึงกลายเป็นของดีของแพง

เพราะเหตุที่เป็นคู่ ๆ จึงเท่ากับมาเสนอให้เราเลือกเกลียดข้างหนึ่ง แล้วเลือกรัก ข้างหนึ่ง นั่นแหละคือความหลง คือกิเลสตัณหา

ถ้าเมื่อใด เราเกิดความฉลาดขึ้นมา ไม่เอามันเสียทั้งสองอย่าง เมื่อนั้นแหละ เราจึงจะว่าง

ดีเราก็ไม่รัก ชั่วเราก็ไม่เกลียด เราอยู่เฉย ๆ ก็เป็นความว่าง สุขเราก็ไม่อยาก ทุกข์เราก็ไม่เกลียด เราอยู่เฉย ๆ มันก็เป็นสันติ หรือเป็นความว่าง หรือเป็นนิพพาน

ผู้ที่ลุถึงนิพพาน มีจิตใจไม่หลงใหลอยู่กับสิ่งที่เป็นคู่ แต่อยู่เหนือความเป็นคู่ คือ ความว่าง นั่นเอง

แต่ถ้าเราไปหลงใหลในความสุข ซึ่งที่แท้ไม่ใช่ความสุข หมายถึง โลกียสุข ยังเป็นของลวง เป็นของคู่กับความทุกข์ หาใช่นิพพานไม่

พระพุทธองค์แม้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ยังทรงอยู่ด้วยความว่าง การทรงอยู่ด้วยความว่างชนิดนั้นของพระพุทธองค์ นั้น เรียกว่า “สุญญตาวิหาร”

ความว่างนั่นแหละเป็นหัวใจแท้ของพระพุทธศาสนา !!

 

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/surasakc/2011/09/23/entry-1
เครดิตภาพ : http://pantip.com/topic/30615929

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ หัวใจของความสุข ღ


ก า ร ป ล่ อ ย ว า ง   คื อ หั ว ใ จ ข อ ง   ค ว า ม สุ ข

-ธรรมทาน-

Cr :  http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

ღ อย่า ღ


อย่า ” อยากได้…อยากมี “…อย่างคนอื่นเขา    จน ” เกินกำลัง ” ตัวเรา จะ…ไขว่คว้า
อย่า…ปล่อยให้…” กิ เ ล ส “…มันบังตา          จนลดทอน ” คุ ณ ค่ า ข อ ง จิ ต ใ จ “…!!!


Cr : http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

ღ คนโง่ ღ


คนใดว่าตนดี คนนั้นยังไม่ดี…
ใครว่าตนวิเศษวิโสหรือฉลาดเ
ฉียบแหลม
คนนั้นคือ " ค น โ ง่ "

-หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี-

Cr : http://www.jaowka.com/
group/ธรรมะสอนใจ

ღ รู้ว่าทุกข์ ღ


ถ้าเรารู้ว่าอะไรเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ เราก็ควรปล่อยสิ่งนั้นเสีย เหมือนเราไปจับของแล้วมันร้อน…

ก็วางเสียสิ อย่าไปจับมันไว้

-หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ-

Cr : http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

ღ วันพระอาสาฬหบูชา ღ

 

วันนี้ วันพระ อาสาฬหบูชา
รักษาศีล เจริญภาวนา สำรวมกาย วาจาใจ
หมั้นตรีกระลึกหลัธรรมคำสอน
ของสัมมาสัมพุทธเจ้า...

Cr : niravn1962@facebook.com

ღ วันอาสาฬหบูชา ღ



วันอาสาฬหบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ หรือ เดือน ๘ เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศ พระศาสนาเป็นครั้งแรก โดยแสดงปฐมเทศนา คือ ธรรมจักกัปปวัตนสูตร เป็นผลให้เกิดมีพระสาวกรูปแรกขึ้น ในพระพุทธศาสนา จนถือได้ว่าเป็นวันแรกที่มี พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบเป็นองค์พระรัตนตรัย


 ความสำคัญ

๑. เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระศาสนาเป็นครั้งแรก   ด้วยการแสดงปฐมเทศนา ที่มีชื่อว่า ธรรมจักกัปปวัตนสูตรซึ่งหมายถึง  พระสูตรว่าด้วยการยังธรรมจักรให้เป็นไป นั่นคือ ธรรมะของพระพุทธองค์เหมือนวงล้อธรรมที่ได้เริ่มเคลื่อนแล้วจากจุดเริ่มต้นใน วันนี้ 

๒.เมื่อพระโกณฑัญญะ หนึ่งในปัจวัคคีย์ได้ฟังธรรม  ก็เกิดดวงตาเห็นธรรม คือ เห็นจริงตามที่พระพุทธองค์ทรงเทศนา จึงได้ทูลขอบวช   ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงบวชให้ด้วยวิธี เอหิภิกขุอุปสัมปทา” (การบวชที่พระพุทธเจ้าทรงประทานให้ด้วยการเปล่งวาจาให้เข้ามาเป็นพระภิกษุ ได้)  ดังนั้น พระโกณฑัญญะจึงเป็นเป็นสาวกองค์แรกในพุทธศาสนา  และ


๓.ทำให้วันนี้เป็นวันที่มีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบเป็นองค์พระรัตนตรัย เป็นครั้งแรกในโลก



Cr  :  http://www.culture.go.th

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ สุขใจ ღ

 
สุ ข ใ จ เ มื่ อ ไ ด้
" ป ล่ อ ย ว า ง "

Cr : LINE CHAWAN

ღ คนน่ารัก ღ

 

ค น น่ า รั ก ต า ม ห ลั ก พุ ท ธ ศ า ส นา

- คติธรรมคำคม-

Cr : LINE CHAWAN

ღ ใจช้าลง ღ


(ใจ)ช้าลง ทำให้รับรู้ได้กว้าง ชัดเจนและเย็นขึ้น

-Instadham-

Cr : http://www.jaowka.com/
group/ธรรมะสอนใจ

ღ การดับทุกข์ ღ


ศีล สมาธิ ปัญญา
สิ่งใดก็ตามที่ดี และมีประโยชน์
ต้องนำเราไปสู่ การดับทุกข์ได้..

-khunyim-

Cr : http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

ღ ผู้สงบ ღ



"ท่านจงทำความโศกในกาลก่อนให้เหือดแห้ง
ท่านอย่ามีความกังวลใจในกาลภายหลัง
ถ้าท่านจักไม่ยึดถือในท่ามกลางก็จักเป็นผู้สงบเที่ยวไป ดังนี้"

Cr : https://www.facebook.com/pages/Sammāsaṃbuddh

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ แก่นแท้ของธรรมอยู่ที่สติ ღ

แก่นแท้ของธรรมอยู่ที่สติ
จงหมั่นทำสติ ให้แก่กล้า
สติ ทำอะไรไม่ผิดพลาด   
กุศล และ ธรรมทั้งหลาย ...
คุณงามความดีทั้งหลาย เกิดขึ้นได้  
เพราะ บุคคลมี "สติ" อย่างเดียว
จะคิด จะพูด จะทำ ให้มี "สติ"
ระลึกนึกเสียก่อน มันผิด ก็ให้รู้
มันถูก จึงค่อยทำ
-หลวงปู่ขาว อนาลโย-
Cr : http://owatdhamma.blogspot.com/2013/02/blog-post_7517.html

ღ ความก้าวหน้าของวิปัสสนาญาณ ღ

 
ความก้าวหน้าของวิปัสสนาญาณ คือ เมื่อกิเลสเข้ามาในดวงใจหรือดวงจิตของเรา เราสามารถรู้เท่าทันมัน แล้วรู้ว่ามันขังอยู่ในใจของเรานานแค่ไหน คือ เรารู้เท่าทันมันตลอด จากนั้นกิเลสสามารถตกลงไปได้ไวที่สุด พูดง่ายๆ คือ เมื่อกิเลสเข้ามาปุ๊ป แล้วมันตกลงไปจากใจได้ไวที่สุด นี่จึงเรียกว่าความก้าวหน้าของด้านวิปัสสนาญาณในระดับต้นโดยการอาศัยสติ สติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด...

-พระอาจารย์ยุคลธรณ์ ธัมมปุตโต-

Cr : http://owatdhamma.blogspot.com/2013/07/blog-post_4903.html

ღ อะไรที่ยังมั่นหมายคือเชื้อทุกข์ ღ

 
อะไรที่ยังมั่นยังหมายอยู่
ยังอยากมี อยากดี อยากสุข อยากพ้นไปอยู่
ก็ให้เข้าใจว่า ยังเป็นเชื้อทุกข์ในตนอยู่
นั่นคือ มันยังหลงพอใจอยู่ สมุทัยใจขี้หลง
พิจารณาให้รู้ ณ ที่ใจ ที่ยังยึดยังถืออยู่
ผลของการยึด การถือ คืออะไร เป็นอย่างใดต่อไป
ควรไหม สมควรที่จะต้องปล่อยวาง หรือไม่
หรือตนชอบพอในทุกข์อยู่
ก็จิตสงบจากอารมณ์ นั่นเองแหละ เป็นความสุข
จิตไม่เพลิดเพลิน
จิตปล่อยวาง
เฉย ๆ อยู่ รู้อยู่ จึงรู้เท่าทัน
เอา เกสา - โลมา -นขา -ทนฺตา -ตโจ นี้แหละ
เป็นกุญแจธรรมเปิดประตูมรรคผลนิพพาน

-หลวงปู่จาม มหาปุญโญ-

Cr : http://owatdhamma.blogspot.com/2013/02/blog-post_4150.html

ღ อยู่ในศีลธรรมย่อมเป็นสุข ღ

 
คนเราเมื่อประพฤติปฏิบัติให้อยู่ในกรอบแห่งศีลธรรม
อยู่ในความไม่ประมาท หมั่นบำเพ็ญบุญ
สวดมนต์ไหว้พระทุกวันแล้ว
ก็ไม่ต้องวิ่งไปหาพระที่ไหน ชีวิตก็เป็นสุข

-หลวงปู่จาม มหาปุญโญ-

Cr : http://owatdhamma.blogspot.com/2013/02/blog-post_4150.html

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ ไร้ซึ่งการพัฒนา ღ



สิ่งใด แตะไม่ได้ ติไม่ได้
สิ่งนั้น ไร้ซึ่งการพัฒนา...

-Love Ramon-

Cr : http://www.jaowka.com/group/มุมเติมเต็มหัวใจ

ღ รักตัวเอง ღ

 
หากท้อ ขอให้ทน
หากอับจน ขอให้แก้ไข
หากไม่ไหว ขอให้หยุดพัก
หากไม่มีใครรัก ขอให้รักตัวเอง

-Anonymous-

Cr : http://www.jaowka.com/group/มุมเติมเต็มหัวใจ

ღ ความผิดพลาด ღ

 
ค ว า ม ผิ ด พ ล าด
จ ะ ท ำ ใ ห้ เ ร า ฉ ล า ด ขึ้ น
ไ ด้ ก็ ต่ อ เ มื่ อ.....
เ ร า เ รี ย น รู้ จ าก มั น


Cr : http://www.jaowka.com/group/มุมเติมเต็มหัวใจ

ღ ครูชั้นดีของเรา ღ


ผู้ไม่ลงรอยกับเรา
ชอบติเตียนเรา
ชอบขัดคอเรา
นี่แหละ ครูชั้นดีของเรา

-พระมหาธีรนาถ อคคฺธีโร-

Cr : http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ มีสติพร้อม ღ


จะทำสิ่งใดก็ตาม เราต้องมีสติพร้อม คือ
อย่าให้มีโทสะ อย่าให้อารมณ์เข้ามาควบคุมสติ
อย่าให้เรื่องส่วนตัวและขาดเหตุผล มาอยู่เหนือความจริง

-หลวงปู่ทวด-

Cr : http://bhudsabakron.blogspot.com/2013/03/blog-post_15.html

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ ความริษยา ღ


ความริษยา คือ ไฟเงียบ
ที่จะเผาผลาญจิตใจของผู้มีมัน
เหมือนตกนรกทั้งเป็น
ตั้งแต่ต้นจนตลอดเวลา
ทั้งที่ผู้ถูกริษยาไม่รู้สึกอะไรเลย

-พุทธทาสภิกขุ-

Cr : http://www.jaowka.com/group/ธรรมะสอนใจ

ღ กายกับจิต ღ

 
กายกับจิตเราได้มาแล้วมีอยู่แล้ว
ได้มาจากบิดามารดาพร้อมบริบูรณ์แล้ว
จะทำให้เป็นศีลก็รีบทำศีลมีอยู่ที่เรานี้แล้ว
รักษาได้ไม่มีกาลได้ผลไม่มีกาล...

-หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต-

Cr : http://bhudsabakron.blogspot.com/2013/04/blog-post_10.html

ღ ชนะตนเอง ღ

ถ้าเราเอาชนะตัวเอง
มันก็จะชนะทั้งตัวเองชนะทั้งคนอื่น
ชนะทั้งอารมณ์ ชนะทั้งรูป ทั้งเสียง ทั้งกลิ่น
ทั้งรส ทั้งโลภะ
เป็นอันว่าชนะทั้งหมด

-หลวงพ่อชา สุภัทโท-

Cr : http://bhudsabakron.blogspot.com/2013/04/blog-post_5.html

ღ ให้อภัยเมตตาต่อกัน ღ


...วั น นี้ พ ร ะ...

ใ ห้ อ ภั ย มี เ ม ต ต า ต่ อ กั น
ส ว ด ม น ต์ ไ ห ว้ พ ร ะ
ท ำ จิ ต ใ ห้ แ จ่ ม ใ ส เ บิ ก บ า น

Cr : niravan1962@facebook.com

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ღ อภิณหปัจจเวกขณ์ ღ

 
ชราธัมโมมหิ  ชะรัง อะนะติโต
เรามีความแก่เป็นธรรมดา  จะล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้

พะยาธิธัมโมมหิ  พะยาธิง  อะนะตีโต
เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา  จะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้

มะระณะธัมโมมหิ  มะระณัง  อะนะตีโต
เรามีความตายเป็นธรรมดา  จะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้

สัพเพหิ  เม  ปิเยหิ  มะนาเปหิ  นานาภาโว  วินาภาโว
เราจักพลัดพรากจากของที่รัก ของชอบใจทั้งหลาย

กัมมัสสะโกมหิ  กัมมะทายาโท
เรามีกรรมเป็นของๆตน  เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

กัมมะโยนิ   กัมมะพันธุ
เรามีกรรมเป็นแดนเกิด  เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธ์

กัมมะปะฏิสะระโน   ยัง กัมมัง กะริสสามิ
เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย  เราทำกรรมอันใดไว้

กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา
เป็นกรรมดีก็ตาม  เป็นกรรมชั่วก็ตาม

ตัสสะ  ทายาโท  ภะวิสสามิ
เราจักต้องเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น

เอวัง  อัมเหหิ  อะภิณหัง  ปัจจะเวกขิตัพพัง
เราทั้งหลายพึงพิจารณาเนืองๆอย่างนี้แล...


ที่มา : http://www.nkgen.com/357.htm
เครดิตภาพ: https://www.facebook.com/Patitintham