ใครจะทำอะไรให้แก่เราในทางร้าย เรายิ้มรับด้วยหน้าชื่นตาบาน เราไม่โกรธ แต่เราสงสารว่า แหม ทำไมจึงปล่อยจิตปล่อยใจให้ตกต่ำอย่างนั้น ทำไมจึงให้กิเลสครอบงำอย่างนั้น ทำไมมีความคิดความอ่านปล่อยตัวปล่อยใจให้ตกอยู่ในอำนาจของกิเลส ทำอย่างไรหนอจึงจะช่วยยกจิตใจคนนั้นให้มันสูงขึ้นสักหน่อย คิดไปในรูปอย่างนั้น ไม่โกรธไม่เคืองใคร ไม่ก่อความร้าวรานให้เกิดขึ้นแก่ใครๆ
นี่เรียกว่าเรามีพระ เราไปกับพระ จะทำอะไรก็ต้องทำอย่างคนมีพระ จะต้องคิดว่าสิ่งที่เราจะทำนี้จะเกิดอะไรบ้าง กระทบกระเทือนใครบ้าง ใครจะเดือดร้อนเพราะการกระทำของเราบ้าง เราไม่ได้อยู่เพื่อให้ใครเดือดร้อน เราคิดไว้ในใจอย่างนี้ตลอดเวลา อย่างนี้ก็เรียกว่า เรามีพระอยู่ตลอดเวลา พระกรุณาฝังแน่นอยู่ในจิตใจ คนมีน้ำใจกรุณาอย่างนี้ไม่โกรธใครเลย ไม่เกลียดไม่ริษยาใครเลย ไม่อยากจะได้ของอะไรๆ ของใครๆ เขา เราทำอะไรของเราเอง เป็นคนคิดช่วยตัวเอง พึ่งตัวเองมันดีหรือไม่
ถ้่าเรามีพระถูกต้องก็มีอยู่ในรูปอย่างนี้ เราจะไม่ลำบากใจ เราสร้างพระขึ้นไว้ข้างใน พระุข้างในไม่หนัก ไม่ต้องผูกคอ ไม่ต้องใช้สายสร้อยเส้นละสิบสลึง ถ้าเราผูกพระไว้ในใจแล้วขโมยเอาไปไม่ได้ ขโมยยิ่งเอาไม่ได้ใหญ่ เพราะใจมันไม่รู้จักพระ มันจะเอาไปได้อย่างไร เราสบายใจดี ไม่มีอันตราย
(ปาฐกถาธรรมเรื่อง “พระที่แท้จริง” พ่อปัญญานันทภิกขุ)
ที่มา : http://www.tamboon.net
เครดิตภาพ : Google
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น